ผ้ายันต์ชายธงรัตนมาลา หลวงปู่เทียม

ผ้ายันต์ชายธงรัตนมาลา

คุ้มครองได้ทั้งเมือง ป้องกันได้ทุกหย่อมหญ้า (ตำหรับวัดประดู่ทรงธรรม)
ผ้าดาดเมรุ จารลายมือหลวงปู่เทียม ทำให้ศิษย์ใกล้ชิด

หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช ปี 2511

ตำนานสมเด็จพระนเรศวร มหาราชผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน ทรงพระราชศรัทธา องค์สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว มาก ถึงขนาดองค์สมเด็จพระพนรัตน์ ขอบิณฑบาต ชีวิตทหารที่ทำผิดในคราวยุทธหัตถี พระองค์ก็พระราชทานอภัยโทษ มีเรื่องเล่าว่า องค์สมเด็จพระพนรัตน์ ได้ทำตะกรุดรัตนมาลา ถวายองค์พระนเรศวรร้อยเป็นสร้อยสังวาล คราวทำยุทธหัตถีทำให้มีชัยชนะอันยิ่งใหญ่ก้องโลกเหนือพระมหาอุปราชแม่ทัพพม่า ตำราตะกรุด ธง รัตนมาลา ท่านว่าเป็นของสูงค่า สืบค้นตำราลายมือของ องค์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) หรือแม้แต่ พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข) วัดปากคลองมะขามเฒ่า ก็ยังต้องจารึกยันต์รัตนมาลาในสมุดข่อย ลงท้ายด้วยว่าตกทอดจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว กรุงอโยธยา
มหายันต์ รัตนมาลา แปลตามตัวว่า “อัญเชิญพระรัตนตรัยคุ้มเกล้าเกศาดุจฉัตรแก้วสุรกานต์” .จึงมีอานุภาพ คุ้มครองได้ทั้งเมือง เหมือนฉัตรแก้วสุรกานต์ ป้องกัน ได้ทุกหย่อมหญ้า ใครได้ใครบูชามีคุณสูงส่ง ค้ำคูนดวงชะตา ให้รุ่งเรือง กันแม้โรคระบาด เกิดทุพภิกขภัย ข้าวยาก หมากแพง ภัยธรรมชาติ ที่สุดแล้วจะนำชัยชนะชื่อเสียงเกียติยศมาสู่ตน บังเกิดให้มีบารมี มีโภคทรัพย์ลาภสักการะไหลมาไม่ขาดสาย มีความผาสุกยิ่งๆขึ้นไปแล

พระคาถารัตนมาลา ศักดิ์สิทธิ์มาก คราวสงครามโลกครั้งที่ ๑ พระคณาจารย์ต่างๆมีมติใช้พระคาถารัตนมาลา ดุจกำลังแห่งพระรัตนตรัย เดินเป็นพระยันต์จักรพัตราธิราชลงเครื่องชั้นสูงถวายประจำกายล้นเกล้า
รัชกาลที่ ๖ ณ วัดประดู่ทรงธรรม เพื่อเป็นฐานเสริมพระบารมี ในการนำพาประเทศเข้าร่วมสงคราม

พระคาถา รัตนมาลา หรือ นวหรคุณ

คือ คุณเก้าประการ ของพระพุทธเจ้า จากบทพุทธคุณนั้นเอง หรือ ที่เรียกกันตามตำราว่า อิติปิโส เก้าห้อง นับตั้งแต่ห้องที่

๑.อะระหัง หมายถึง เป็นผู้ดับเพลิงทุกข์ เพลิงกิเลสโดยสิ้นเชิง
บทนี้ใช้ด้านกันไฟทั้งปวง

๒.สัมมาสัมพุทโธ หมายถึง เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยตัวพระองค์เอง
บทนี้ใช้เป็นตบะเดชะเสริมสร้างสง่าราศี

๓. วิชาจะระณะสัมปันโน หมายถึง เป็นผู้พร้อมด้วยวิชาและจรณะ
บทนี้ใช้ด้านโภคทรัพย์โชคลาภ

๔. สุคะโต หมายถึงเป็นผู้ดำเนินไปได้ด้วยดี
บทนี้ใช้ในด้านการเดินทาง ทั้งทางบก น้ำ อากาศ

๕.โลกะวิทู หมายถึง เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
บทนี้ใช้ภาวะนาเมื่อเข้าป่าหรือที่มืด

๖. อนุตตโร ปุริสะทัมมะสารถี หมายถึง เป็นผู้ฝึกบุรุษผู้ควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
บทนี้ใช้ทางมหาอำนาจ ตวาดผี

๗. สัตถาเทวะมนุษานัง หมายถึง เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
บทนี้ใช้ทางเมตามหานิยม สมณะ ขุนนางเอ็นดู

๘. พุทโธ หมายถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
บทนี้ใช้ภาวนาอารมณ์ ทำให้ไม่ตกต่ำอับจน

๙. ภะคะวา ติ หมายถึง เป็นผู้จำเริญ จำแนก ธรรม สั่งสอนสัตว์ดังนี้
บทนี้ใช้ในทางป้องกันภยันอันตรายอันจะกระทำแก่เรา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ อมนุษย์ อสูรกาย สัตว์เดียรฉาน ป้องกันการประทุษร้ายเหล่านั้นได้ ทั้งสิ้นแล

หรือสรุปโดยย่อเป็นองค์ภาวนา คาถานวหรคุณ ก็คือ
"อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ"

นั่นคือเป็นหัวใจพระพุทธคุณนั่นเอง